วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2550

บริจาคโลหิตด้วยกันนะ

เราเริ่มบริจาคโลหิตมานานแล้ว ตั้งแต่ตอนเรียน ที่จริงเป็นคนที่กลัวเข็มอย่างมาก ตอนเป็นเด็กนักเรียนอนุบาลจำได้ว่าถ้าเห็นหมอมาฉีดวัคซีนจะวิ่งหนี คุณครูต้องคอยตามกลับมา เมื่อโตขึ้นถ้าไม่สบายก็จะใช้วิธีทานยาจะไม่ค่อยฉีดยาเท่าไร ถ้าตั้งใจนับครั้งกันจริง ๆ สำหรับการฉีดยาก็คงจะนับได้ แต่พอดีไม่ได้ตั้งใจนับก็เลยไม่รู้ว่ากี่ครั้ง พอโตมากขึ้น (หมายถึงอายุ) เห็นเขาบริจาคโลหิตกันก็อยากบริจาคบ้าง เพราะคิดว่าเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้อย่างดีที่สุด โดยเราสละเลือดของเราให้ผู้อื่น ก็ไม่ได้คิดมากหรือไม่ได้ศึกษาว่าจะเป็นผลเสียต่อร่างกายตัวเองหรือไม่อย่างไร แต่เห็นเขาบริจาคกันเยอะแยะ แล้วหมอและพยาบาลก็เป็นคนดำเนินการ คงไม่อันตรายแน่ ๆ เลือกการบริจาคครั้งแรกในวันเกิด จากนั้นก็มีครั้งที่สองหลังจากครั้งแรกประมาณ 3 เดือนชวนพี่สาวไปบริจาคด้วย ซึ่งปกติพี่สาวก็จะเป็นคนกลัวเข็มมาก ๆ เหมือนกัน แต่เห็นอาการของเราชวนแบบอยากให้ไปด้วยมาก ๆ เขาคงเอาใจน้องก็เลยไปด้วยกัน แล้วเราก็บริจาคมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง นี่ก็ประมาณ 20 ครั้งแล้ว จะพยายามจัดวันบริจาคตรงกับวันพิเศษมาก ๆ อาทิเช่น วันเฉลิมพระชนม์พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันเฉลิมพระชนม์พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ วันปิยมหาราช แล้วก็วันเกิดของตัวเอง นี่ก็บริจาคไปเมื่อครั้งก่อนในเดือนสิงหาคม 2550 กว่าจะถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ก็ประมาณ 4 เดือน ครบรอบบริจาคพอดี (ปกติ 3 เดือนก็บริจาคได้แล้ว) เดี๋ยวนี้มีความรู้เพิ่มขึ้นว่า การบริจาคโลหิตเป็นการเอาโลหิตออกจากร่างกายประมาณ 300-400 ซีซี ไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย แต่จะช่วยกระตุ้นให้ไขกระดูกทำงานได้ดีขึ้น สามารถบริจาคได้ทุก 3 เดือน และรักษาสมดุลให้อัตราการสร้างใหม่ทดแทนเท่ากับที่เสียไป และหน่วยงานรับบริจาคจะจ่ายยาเม็ดธาตุเหล็กให้ทานเพื่อบำรุงหลังจากบริจาคโลหิตแล้ว ผู้บริจาคควรทานยาให้หมดตามที่กำหนดเพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง

2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

เท่าที่เคยได้ยินมาเขาบอกว่า บรจาคเลือดปุ๊บ เลือดจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ให้สมดุลอ่ะครับ เลือดที่แทนก็จะเป็นเลือดใหม่ สดและแข็งแรงกว่าของเดิมที่บริจาคไป สุขภาพแข็งแรง กระดูกดีขึ้น ตามที่เขียนไว้อ่ะครับ :D

yawaiam กล่าวว่า...

อยากเชิญชวนท่านที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้ร่วมบริจาคโลหิตในวันที่ 5 ธันวาคม 2550(ร่วมกันทำดีเพื่อในหลวง)ผู้ที่มีอายุระหว่าง 17 ปี บริบูรณ์ ถึง 60 ปี
น้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป สุขภาพทั่วไปสมบูรณ์ดี
ไม่มีประวัติเป็นโรคตับอักเสบ โรคหัวใจ โรคไต โรคเอดส์ หรือดีซ่าน สตรีไม่อยู่ในระหว่างมีประจำเดือน
ต้องไม่อยู่ในระหว่างทานยาลดความอ้วน